วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

เก้าอี้ 4 in 1 ตัวเดียวนั่งได้ทั้งครอบครัว





ดูผ่านๆนึกว่าเจ้า เก้าอี้ตัวนี้เป็นแค่เก้าอี้ธรรมด๊าธรรมดาที่ใช้นั่งโยกไปโยกมาเท่านั้น ครับ แต่ที่ไหนได้ นอกจากรูปทรงจะสวยงามแปลกประหลาดแล้ว ในเรื่องอรรถประโยชน์การใช้สอยก็ใช้ย่อย เพราะมันสามารถกระจายร่างจากเดิมที่นั่งได้ 1 ตูดกลายเป็น 4 ตูดได้ในพริบตา!

เจ้าเก้าอี้แยกร่างตัวนี้ เป็นผลงานของคุณ Dripta Roy จาก Puur ครับ ประโยชน์การใช้สอยของมันที่มากกว่าเก้าอี้ทั่วไปก็คือ มันสามารถแยกร่างจากเก้าอี้เดี่ยวๆตัวเดียวกระจายออกมาเป็นเก้าอี้ได้ถึง 4 ตัว ใคร ที่อยากจะนั่งดูทีวีคนเดียวหรือจะนัดเพื่อนๆมาเปียแชร์กันก็ไม่มีปัญหา แค่จับมันแยกร่างออกมา เท่านี้ก็นั่งเฮฮากันได้อย่างสนุกสนาน

นอกจากนี้ พอเพื่อนๆแยกย้ายกันกลับบ้านแล้ว เราก็แค่นำมันมาซ้อนๆกันเหมือนเดิม เท่านี้ก็ช่วยประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บแล้วครับ
 
 
 
 
 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : FuKDuK BLOG

งานอีกแล้ววว





พรุ่งนี้มีงานส่งอาจารย์อีกแล้ววว อาจารย์ให้ทำงานกลุ่ม ให้สร้างโฆษณาเกี่ยวกับรณรงค์สิ่งแวดล้อม
กลุ่มผมก็ทำมาแบบ แนวๆ เลย ครับ 




อยากดูกันแล้วสิ เพื่อน ๆ  งั้นตามมาดูเลย .... 

 



http://www.youtube.com/watch?v=THC953DMc7M
 
 
ต้องแอบขอโทษเพื่อนๆแบบเบาๆนะครับ ที่วีดีโอมันอัพโหลดไม่ขึ้น
ผมก็เลยทิ้งลิงค์เอาไำว้ให้เพื่อนๆ
ได้เข้าไปดูกันนะคร้าบบบบบบ 



:))

พักผ่อนย่อนใจที่สวนรถไฟ


สวนรถไฟ เป็นสถานที่ ที่ผมชอบมาก เพราะว่า บรรยากาศเงียบสงบ มีต้นไม้ ลำคลอง 
ทำให้ผมได้จินตนาการว่า เหมือนอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด และมันก็ทำให้ผมคิดถึงบ้านเหมือนกัน
วันก่อนผมได้ไปพักผ่อนที่สวนรถไฟกับเพื่อน ได้ไปถ่ายรูปเล่นกัน ได้นั่งชมบรรยากาศชิวๆ
เลยเก็บรูปถ่ายมาฝากเพื่อนๆกันนะครับ




 นั่งชมบรรยากาศชิวๆ




ตากล้องของเราวันนี้




สาวๆที่ไปกับผม ^^



สบายๆ 



เป็นไงกันบ้างครับเพื่อน ๆ  :))

เอาชนะความเบื่อหน่ายในการออกกำลังกาย



สาว ๆ ที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ และรู้ว่าการออกกำลังกายเป็นเรื่องดี แต่บางทีคุณก็อาจเบื่อหน่ายการออกำลังกายขึ้นมาเฉย ๆ แต่ก่อนที่คุณจะพ่ายแพ้หัวใจตัวเอง เรามีวิธีดี ๆ มาช่วยคุณเอาชนะความรู้สึกนั้นแล้ว

     - แก้ไขทันใจ ประเมินกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณในขณะนี้เสียก่อน เพื่อชี้ชัดให้ได้ ว่าอะไรที่ทำให้คุณเบื่อการออกำลังกาย แล้วลองหันไปเพิ่มความหลากหลายใหม่ ๆ ให้กิจกรรมที่คุณโปรดปราน เช่น หันมาเล่น Kick Boxing แทนการเต้นแอโรบิก หรือเล่นฟรีเวตแทนเครื่อง สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้กิจวัตรเดิม ๆ มีชีวิตชีวาขึ้น หรือถ้าคุณเคยออกกำลังแต่ในฟิตเนส ก็ลองไปออกกำลังตามสวนสาธารณะบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

     - เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถ้า การเปลี่ยนแปลงกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังไม่เพียงพอ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เริ่มต้นทำกิจกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะลองทำ เช่น ถ้าคุณเคยชินอยู่กับการเล่นกีฬาคนเดียว ลองหันมาเล่นกีฬาแบบทีมดูบ้าง หรือพยายามทำสิ่งที่คุณไม่ชอบมาโดยตลอด เช่น การเล่นกีฬาแอดเวนเจอร์ อย่าง ขี่จักรยานเสือภูเขา การปีนหน้าผา ฯลฯ

     - หาเพื่อนออกกำลังกาย การออกกำลังกายคนเดียวเหมือนกับการได้พักผ่อนจากวันที่ยุ่งเหยิง แต่บางทีการออกกำลังกาย ก็ต้องการเพื่อนที่จะช่วยให้คุณได้สังสรรค์ไปในตัว ซึ่งการชวนเพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกัน จะทำให้คุณไม่อยากงดออกกำลังกาย เนื่องจากมีคนรออยู่ การมีคนมาออกกำลังกายด้วยยังหมายถึงการท้าทายให้คุณพัฒนาทักษะการออกกำลัง กายให้ดีขึ้น

     - ตั้งเป้าหมายท้าทายตัวเอง หลายคนตั้งใจออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แต่การตั้งเป้าหมายบางอย่าง เช่น การร่วมวิ่งแข่งมาราธอน หรือการแข่งว่ายน้ำ จะทำให้การออกกำลังกายของคุณในแต่ละวันมีความหมายขึ้น

     - เพิ่มความหลากหลาย การออกกำลังกายหลาย ๆ อย่างสลับไปมา เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้เบื่อการออกกำลังกายได้ดี ถ้าปกติคุณออกกำลังกายแค่อย่างเดียว ก็ลองสลับด้วยกิจกรรมอื่น ๆ สัก 2-3 วันในหนึ่งสัปดาห์ โดยควรให้โปรแกรมการออกกำลังกายของคุณครบถ้วน ทั้งการออกกำลังบริหารหัวใจ การฝึกความแข็งแรง และการยืดกล้ามเนื้อของร่างกาย

     - ของเล่นใหม่ ๆ อุปกรณ์ในการออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจไม่ใช่ของจำเป็น แต่มันอาจช่วยให้การออกกำลังกายของคุณสนุก และเพลิดเพลินขึ้น

     - หยุดพัก บาง ครั้งคุณต้องการเวลาพักสักหน่อย ในกรณีนี้ลองลดกิจวัตรการออกกำลังกายของคุณลงบ้าง และแทนที่ด้วยกิจกรรมอื่น คุณอาจพบสิ่งที่คุณสนุกกับมันได้มากกว่าเรื่องเดิม ๆ ที่เคยโปรดปรานก็ได้




ที่มา MomyPedia

คำศัพท์ KM น่ารู้ !!

1. Action Learning ::
     การเรียนรู้จากการปฏิบัติเป็นการเรียนรู้ที่จากการปฏิบัติที่อาศัย ประสบการณ์ความรู้ มุมมองที่กลุ่มหรือบุคคลมี จากการซักถาม แลกเปลี่ยนความเห็น นำไปสู่ทางออกใหม่ๆที่แตกต่าง นำความรู้มาคิดใคร่ครวญแล้วแลกเปลี่ยนถ่ายทอดแก่กัน สร้างประโยชน์ให้กับตน ทีม และองค์การ การเรียนรู้นี้เกิดจากความสมัครใจขับเคลื่อนโดยผู้เรียนและกลุ่ม

2. Analyzing Mistakes ::
     การวิเคราะห์ความผิดพลาดจากการทำงาน

3. Brainstorming ::
     การ ระดมสมองในการทำงาน การ เสนอวิธีการแก้ไขปัญหา หรือเสนอความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มโดยวิธีคิดแบบปัจจุบันทันด่วน เท่าที่ความคิดของสมาชิกคนใดคนหนึ่งจะคิดขึ้นมาได้ในขณะนั้น ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีแต่เสนอขึ้นมาเท่านั้น คำเสนอจะถูกบันทึกไว้ (บนกระดานดำ) เพื่อประเมินผลหรือตามมติภายหลัง

4.Coaching ::
    ารพัฒนาระบบพี่เลี้ยง การสอนงานลูกน้องของตนเอง การสอนงานเป็นเทคนิคหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรหรือลูกน้องของตน

5. Computer - Mediated Communications (CMC) ::
     การติดต่อสื่อสารหรือการโต้ตอบปฏิสัมพันธ์ผ่านคอมพิวเตอร์ เป็นรูปแบบอย่างกว้างๆที่สามารถกำหนดการติดต่อปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือเป็นเครือข่ายบนคอมพิวเตอร์

6. External Consultants :: 
     การมีที่ปรึกษาภายนอกองค์กร

7. Learning Contracts ::
     การทำสัญญาการเรียนรู้ สัญญาที่ผู้เรียนกับผู้สอนร่วมกันกำหนด  เพื่อใช้เป็นหลักยึดในการเรียนว่าจะเรียนอะไร อย่างไร เวลาใด ใช้เกณฑ์อะไรประเมิน

8. Mentoring ::
     เป็น การให้ผู้ที่มีความสามารถหรือเป็นที่ยอมรับ หรือผู้บริหารในหน่วยงานให้คำปรึกษาและแนะนำช่วยเหลือรุ่นน้องหรือผู้ที่ อยู่ในระดับต่ำกว่าในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานเพื่อให้มีศักยภาพสูง ขึ้นแต่อาจไม่เกี่ยวกับหน้าที่ในปัจจุบันโดยตรง

9. Networking ::
     การสร้างเครือข่ายการทำงาน

10. Portfolios ::
     การจัดทำแฟ้มผลงาน

11. Project work ::
     การพัฒนาการทำงานเชิงโครงการ

12. Rotating Jobs ::
     การหมุนเวียนการทำงาน

13. Team Working ::
     การทำงานเป็นทีม
   
14. Knowledge Strategy [การวางแผนกลยุทธ์ทางด้านองค์ความรู้]

     การวางแผนจัดการด้านองค์ความรู้และการใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้นั้น ไม่ต่างจากการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ (Business Strategy) กล่าวคือ ผู้บริหารองค์กรและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะต้องทราบให้แน่ชัดว่ากำลังจะ นำศาสตร์ด้าน KM มา ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ในลักษณะใดต่อองค์กร โดยจะต้องทราบ อย่างแน่ชัดว่าจะใช้งานและบริหารจัดการองค์ความรู้เหล่านั้นในลักษณะใดโดย ให้อยู่บนพื้นฐานที่ว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นกับระบบ KM ต้อง สร้างประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรของตน ในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย หากจะเริ่มต้นวางแผนออกแบบกลยุทธ์การจัดการองค์ความรู้ให้เกิดขึ้นอย่างมี ประสิทธิภาพ ก็อาจจะต้องว่าจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาเพื่อออกแบบระบบที่มีความ สอดคล้องกับการกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ นอกนั้นจะต้องตระหนักว่า แม้จะมีการออกแบบกลยุทธ์ในการจัดการองค์ความรู้ไปแล้ว กลยุทธ์ดังกล่าวก็ควรจะได้รับการตรวจสอบอยู่เป็นประจำว่ายังมีประสิทธิภาพ และเข้ากันได้กับกลยุทธ์ทางธุรกิจซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์การ แข่งขันอยู่เสมอ


15. Knowledge Sharing [การแลกเปลี่ยนความรู้]
     ใน สมัยก่อนรูปแบบของการแบ่งปันความรู้แก่กันถูกจำกัดอยู่ในวงแคบๆ พ่อแม่สอนการบ้านลูก ครูสอนหนังสือนักเรียน เพื่อนติวหนังสือให้เพื่อน หรือกว้างออกมาหน่อยก็คือนักเขียนเขียนหนังสือขายให้คนอ่านการแบ่งปันความ รู้ส่วนใหญ่เป็นแบบทางเดียว พ่อแม่สอนการบ้านลูก แต่ลูกไม่ได้สอนอะไรให้พ่อแม่ ครูสอนหนังสือนักเรียน แต่นักเรียนไม่ได้สอนหนังสือให้ครู นักเขียนเขียนให้อ่าน แต่คนอ่านก็ไม่ได้แบ่งปันอะไรกลับมาให้นักเขียน แต่ก็มีบ้างที่เป็นการแบ่งปันแบบหลายทาง เช่น เพื่อนติวหนังสือให้เพื่อน เพื่อนคนนึงอาจจะเป็นคนนำในการติวและเพื่อนอีกคนก็อาจจะถามคำถามที่ตัวเอง สงสัยขึ้นมา ซึ่งเพื่อนที่เป็นคนติวอาจจะตอบไม่ได้แต่ก็อาจจะมีเพื่อนคนอื่นๆที่ช่วยตอบ ให้ได้หรือ การเรียนการสอนในห้องเรียนสมัยใหม่ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ครูอาจจะไม่ใช่ผู้ถ่ายทอดความรู้เพียงฝ่ายเดียว ไม่ใช่เอาแต่เขียนกระดานหรือปิ้งแผ่นใส แต่ครูเป็นเสมือน Facilitator ที่ คอยกระตุ้นให้นักเรียนถ่ายทอดความรู้ของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง โดยครูเป็นแค่คนคอยไกด์ให้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องอย่างไรก็ตาม การแบ่งปันความรู้แบบหลายทางก็ยังจำกัดอยู่แค่ในวงแคบๆ เท่านั้น ภายในกลุ่มเพื่อนไม่กี่คนหรือในห้องเรียนเล็กๆ เพราะถ้าคนเยอะขึ้นเมื่อไรก็จะเกิดความโกลาหลขึ้นทันที ต่างคนต่างพูดจนไม่รู้จะฟังใคร หรือมีเวลาจำกัดที่ให้พูดกันทุกคนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นไม่จบเรื่องปัจจุบันถ้าคุณอยากแบ่งปันความรู้ คุณก็แค่เขียนบล็อก และเปิดให้ผู้อ่านแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ ซึ่งก็จะช่วยเสริมความรู้ที่คุณนำเสนอให้มีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากบล็อกแล้วก็ยังมีรูปแบบการแบ่งปันความรู้แบบหลายทางอื่นๆ อีก เช่น Wikipedia บริการจาก Yahoo ที่ ออกแนวเว็บบอร์ด คือให้คนตั้งคำถามได้ และเปิดให้คนอื่นมาตอบคำถาม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่พยายามหาคำตอบจากแหล่งต่างๆ แล้วไม่พบ หรือไม่ชอบการค้นหาคำตอบด้วยตัวเองแต่ยินดีรอให้คนอื่นมาตอบให้ ซึ่งแตกต่างออกไปจากเว็บบอร์ดทั่วๆ ไปก็คือระบบการให้คะแนน โดยถ้าใครที่ตอบคำถามได้ดีจนเจ้าของคำถามอ่านแล้วพอใจกับคำตอบ เจ้าของคำถามจะเลือกคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ผู้ตอบคำถามก็จะได้รับคะแนนที่เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง หรือถ้าคุณเขียนบทความลง Google คุณจะได้ทั้งชื่อเสียงเพราะรูปและประวัติย่อของคุณจะถูกเผยแพร่ไปพร้อมกับบทความด้วย

16. Knowledge Workers
     ทุนมนุษย์  นับเป็นทรัพยากรอันสำคัญยิ่งขององค์กร ที่เพียบพร้อมไปด้วยทั้ง Tacit Knowledge  ทักษะประสบการณ์ในการทำงาน และเจตคติที่มีต่อองค์กรใน ยุคปัจจุบันซึ่งเป็นยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความเปลี่ยนแปลงนั้นแผ่กระจายไปทั่วโลก ดังนั้นทุกองค์กรจึงพยายามที่จะแข่งขันเพื่อให้องค์กรอยู่รอด ก้าวหน้าและสง่างามกว่าองค์กรอื่น สิ่งที่จะช่วยให้องค์กรสามารถแข่งขันได้นั้นทุกคนในองค์กรต้องทำงานโดยอยู่ บนพื้นฐานความรู้ (Knowledge base) เป็นสำคัญ Blue collar workers จึงกำลังถูกแทนที่ด้วย Knowledge workers หรือผู้ปฏิบัติงานบนพื้นฐานความรู้ซึ่ง Knowledge workers นี้จะเป็นผู้ที่มีศาสตร์เป็นฐานความรู้และมีศิลป์ในการบริหารจัดการในการนำ ความรู้มาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้โดย Knowledge workers จะมีคุณลักษณะดังนี้

1)  มีความสามารถพิเศษในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ
2)  มีความคิดจิตใจที่เป็นอิสระ
3)  การจูงใจที่ดีคือการยอมรับเมือเขาสามารถทำงานได้บรรลุผลสำเร็จ
4)  ชอบทำงานเป็นทีม
5)  ไม่ชอบการควบคุม
6)  ชอบที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระในการสร้างทีม

การ บริหารจัดการโดยใช้วิธีควบคุมและการกำกับทีมจะทำให้ความสำเร็จของงานที่ได้ ไม่ยั่งยืน แต่ทีมที่สามารถควบคุมดูแลตนเองได้จะเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะทีมจะมีคุณลักษณะเฉพาะคือ  ชอบที่จะเรียนรู้ในการควบคุม ตนเอง องค์กร เพียงมีแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทีมสามารถสร้าง สรรค์ผลงานร่วมกันได้อย่างอิสระ (Delegate & Support)เขาจะสามารถนำพาองค์กรสู่ความสำเร็จได้โดยง่ายการ บริหารจัดการ Knowledge workers จึงเป็นเรื่องที่ยากเพราะผู้บริหารมักยึดติดกับการสั่งการและการควบคุม (Direct & Control) ในขณะที่การทำงานร่วมกับ Knowledge workers ผู้ บริหารจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ร่วม จริงใจ และ สร้างให้มีความรู้สึกร่วมกันในทีมในการสร้างชื่อเสียงร่วมกัน ซึ่งนับเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ต้องการทั้งสติปัญญา ความรู้ความสามารถในงาน ความเข้าใจกันโดยเฉพาะความเข้าใจความต้องการพื้นฐานของมนุษย์และความสามารถ ในการครองใจผู้ร่วมงานซึ่งต้องใช้ทักษะในการบริหารคน (Human Skill) โดยเฉพาะความสามารถในการสร้างมนุษยสัมพันธ์อันดีกับผู้ร่วมงาน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องท้าทายความสามารถของผู้บริหารยุคใหม่อย่างมาก

17. Leverage of knowledge asset
Knowledge asset
SECI คือกระบวนการสร้างความรู้
Ba คือพื้นที่ที่ก่อให้เกิดกระบวนการสร้างความรู้
Knowledge Assets คือ ความรู้ที่สร้างขึ้นมาได้จาก SECI

ความรู้ที่สร้างจาก SECI จะออกมาในรูป Knowledge Assets อย่างไรก็ตาม Knowledge Assets เองก็สามารถนำกลับไปเป็นต้นทุนในกระบวนการ SECI ครั้งต่อๆไปได้อีกเหมือนกัน